ลักษณะ :
: แรดจัดเป็นสัตว์พวกกีบคี่ คือมีเล็บ 3 เล็บทั้งเท้าหน้าและเท้าหลัง ตัวโตเต็มวัยมีความสูงที่ไหล่ 1.6-1.8 เมตร น้ำหนักตัว 1,500-2,000 กิโลกรัม แรดมีหนังหนาและมีขนแข็งขึ้นห่างๆ สีพื้นเป็นสีเทาออกดำ ส่วนหลังมีรอยพับของหนัง 3 รอย ตรงบริเวณหัวไหล่ ด้านหลังของขาคู่หน้าและด้านหน้าของขาคู่หลัง แรดตัวผู้มีนอเดียวยาวไม่เกิน 25 เซนติเมตร ส่วนตัวเมียจะเห็นเป็นเพียงปุ่มนูนขึ้นมา
อุปนิสัย:
ในอดีตเคยพบแรดออกหากินรวมกันเป็นฝูง แต่ปัจจุบันแรดหากินตัวเดียวโดดๆ หรืออยู่เป็นคู่ในฤดูผสมพันธุ์ อาหารของแรดได้แก่ ยอดไม้ ใบไม้ กิ่งไม้ และผลไม้ที่ร่วงหล่นบนพื้นดิน แรดไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอนจึงสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดปี ตกลูกครั้งละ 1 ตัว ตั้งท้องนานประมาณ 16 เดือน
ที่อยู่อาศัย:
แรดอาศัยอยู่เฉพาะในป่าดิบชื้นที่มีน้ำอุดมสมบูรณ์หรือตามป่าทึบริมฝั่งทะเล ส่วนใหญ่จะหากินอยู่ตามพื้นที่ราบ ไม่ค่อยขึ้นไปบนภูเขาสูง
เขตแพร่กระจาย :
แรดมีเขตแพร่กระจายตั้งแต่ประเทศบังกลาเทศ พม่า ไทย ลาว เขมร เวียดนาม ลงไปทางแหลมมลายู สุมาตรา และชวา ปัจจุบันมีรายงานพบน้อยมากจนกล่าวได้ว่าเกือบจะหมดไปจากผืนแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชียแล้ว เชื่อว่าอาจยังคงมีหลงเหลืออยู่บ้างบนเทือกเขาตะนาวศรี และในป่าลึกบริเวณรอยต่อจังหวัดระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี
สถานภาพ:
ปัจจุบันแรดจัดเป็นสัตว์ป่าสงวน 1 ใน 15 ชนิดของประเทศไทย และจัดอยู่ใน Appendix 1 ของอนุสัญญา CITES ทั้งยังจัดเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ตาม U.S Endangered Species Act
สาเหตุของการใกล้สูญพันธุ์:
เช่นเดียวกับแรดที่พบในบริเวณอื่นๆ แรดที่พบในประเทศไทยถูกล่าและทำลายล้างอย่างหนัก เพื่อต้องการนอและส่วนต่างๆ เช่น หนัง กระดูก เลือด ฯลฯ ซึ่งมีคุณค่าสูงยิ่ง ใช้เป็นยาบำรุงและยาอื่นๆ นอกจากนี้บริเวณป่าราบที่แรดชอบอาศัยก็หมดไป กลายเป็นบ้านเรือนและบริเวณเกษตรกรรมจนหมด
จากหนังสือ : พืชและสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ในประเทศไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น